การทอดผ้าป่ากลางน้ำ
การทอดผ้าป่ากลางน้ำ
ภาค ภาคกลาง
จังหวัด ระยอง
ช่วงเวลา กลางเดือน ๑๒
ความสำคัญ
ตำบลประแสร์เป็นตำบลชายทะเลของจังหวัดระยอง ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมง เรือจึงเป็นเหมือนบ้านของพวกเขา ถึงปีชาวประมงอยากทำบุญบ้าน (เรือ) ให้เป็นสิริมงคล จึงได้จัดทำบุญทอดผ้าป่าขึ้นในเรือ ซึ่งประเพณีนี้มีมานานกว่า ๘๐ ปีแล้ว
พิธีกรรม
ในช่วงแรกของการทอดผ้าป่ากลางน้ำ ชาวบ้านได้จัดพุ่มผ้าป่าไว้ในเรือแต่ละลำ แล้วนิมนต์พระขึ้นไปชักพุ่มผ้าป่าบนเรือ ซึ่งสร้างความลำบากให้แก่พระเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องลงเรือแล้วออกจากชายฝั่ง เพื่อไปขึ้นเรือซึ่งจอดอยู่กลางลำน้ำประแสร์ แล้วจึงทำพิธีชักพุ่มผ้าป่า ต่อมาจึงเปลี่ยนให้เป็นการจัดพุ่มผ้าป่าไว้ในเรือเพียงลำเดียว แล้วนำไปจอดเทียบไว้ที่ท่าน้ำ จากนั้นนิมนต์พระขึ้นไปชักพุ่มผ้าป่า ส่วนชาวบ้านต่างก็จัดพุ่มผ้าป่าไว้ที่บ้านของตนตามริมน้ำ แล้วให้พระภิกษุจับสลากหมายเลขพุ่มผ้าป่า เมื่อได้แล้วจึงออกไปหาพุ่มผ้าป่าเพื่อทำพิธีชักพุ่มผ้าป่าต่อไป วิธีนี้ก็สร้างความยุ่งยากพอสมควร เพราะพระบางรูปกว่าจะหาพุ่มผ้าป่าพบก็เป็นเวลาดึกดื่น
ในปัจจุบันการทอดผ้าป่ากลางน้ำ ได้ใช้วิธีการผสมผสานให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันกล่าวคือ ชาวบ้านจัดพุ่มผ้าป่าให้สวยงามใส่ไว้ในเรือลำใดลำหนึ่ง แล้วแต่จะตกลงกัน จากนั้นนำเรือไปจอดกลางลำน้ำประแสร์ นิมนต์พระ ๕-๑๐ รูป ไปฉันเพลในเรือ ครั้นเวลาบ่าย ๒ โมง จึงนิมนต์พระภิกษุเพียงรูปเดียวขึ้นไปชักพุ่มผ้าป่าในเรือ ภิกษุรูปอื่นๆ ก็ไปจับสลากหมายเลขที่วัดตะเคียนงาม ได้หมายเลขแล้วจึงเดินไปหาพุ่มผ้าป่าตามบ้านต่อไป และทำพิธีชักพุ่มผ้าป่า ซึ่งก็มักจะพอรู้กันว่าบ้านใครอยู่ที่ใด
สาระ
การทอดผ้าป่าแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และหลังจากทอดผ้าป่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านได้จัดให้มีการแข่งขันและมีการละเล่นต่าง ๆ ที่แปลกออกไป เช่น การแข่งเรือข้ามทุ่น เป็นต้น ซึ่งสร้างความสนุกสนานครื้นเครง เป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามและสนุกสนานไปด้วย
ภาค ภาคกลาง
จังหวัด ระยอง
ช่วงเวลา กลางเดือน ๑๒
ความสำคัญ
ตำบลประแสร์เป็นตำบลชายทะเลของจังหวัดระยอง ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมง เรือจึงเป็นเหมือนบ้านของพวกเขา ถึงปีชาวประมงอยากทำบุญบ้าน (เรือ) ให้เป็นสิริมงคล จึงได้จัดทำบุญทอดผ้าป่าขึ้นในเรือ ซึ่งประเพณีนี้มีมานานกว่า ๘๐ ปีแล้ว
พิธีกรรม
ในช่วงแรกของการทอดผ้าป่ากลางน้ำ ชาวบ้านได้จัดพุ่มผ้าป่าไว้ในเรือแต่ละลำ แล้วนิมนต์พระขึ้นไปชักพุ่มผ้าป่าบนเรือ ซึ่งสร้างความลำบากให้แก่พระเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องลงเรือแล้วออกจากชายฝั่ง เพื่อไปขึ้นเรือซึ่งจอดอยู่กลางลำน้ำประแสร์ แล้วจึงทำพิธีชักพุ่มผ้าป่า ต่อมาจึงเปลี่ยนให้เป็นการจัดพุ่มผ้าป่าไว้ในเรือเพียงลำเดียว แล้วนำไปจอดเทียบไว้ที่ท่าน้ำ จากนั้นนิมนต์พระขึ้นไปชักพุ่มผ้าป่า ส่วนชาวบ้านต่างก็จัดพุ่มผ้าป่าไว้ที่บ้านของตนตามริมน้ำ แล้วให้พระภิกษุจับสลากหมายเลขพุ่มผ้าป่า เมื่อได้แล้วจึงออกไปหาพุ่มผ้าป่าเพื่อทำพิธีชักพุ่มผ้าป่าต่อไป วิธีนี้ก็สร้างความยุ่งยากพอสมควร เพราะพระบางรูปกว่าจะหาพุ่มผ้าป่าพบก็เป็นเวลาดึกดื่น
ในปัจจุบันการทอดผ้าป่ากลางน้ำ ได้ใช้วิธีการผสมผสานให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันกล่าวคือ ชาวบ้านจัดพุ่มผ้าป่าให้สวยงามใส่ไว้ในเรือลำใดลำหนึ่ง แล้วแต่จะตกลงกัน จากนั้นนำเรือไปจอดกลางลำน้ำประแสร์ นิมนต์พระ ๕-๑๐ รูป ไปฉันเพลในเรือ ครั้นเวลาบ่าย ๒ โมง จึงนิมนต์พระภิกษุเพียงรูปเดียวขึ้นไปชักพุ่มผ้าป่าในเรือ ภิกษุรูปอื่นๆ ก็ไปจับสลากหมายเลขที่วัดตะเคียนงาม ได้หมายเลขแล้วจึงเดินไปหาพุ่มผ้าป่าตามบ้านต่อไป และทำพิธีชักพุ่มผ้าป่า ซึ่งก็มักจะพอรู้กันว่าบ้านใครอยู่ที่ใด
สาระ
การทอดผ้าป่าแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และหลังจากทอดผ้าป่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านได้จัดให้มีการแข่งขันและมีการละเล่นต่าง ๆ ที่แปลกออกไป เช่น การแข่งเรือข้ามทุ่น เป็นต้น ซึ่งสร้างความสนุกสนานครื้นเครง เป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามและสนุกสนานไปด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น